ปัจจุบันยางพาราไทย เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้สูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยางแผ่นดิบ กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำยางข้น กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง และกลุ่มอุตสาหกรรมไม้ยางพารา แต่อุตสาหกรรมยางที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันยังประสบปัญหาสำคัญ คือ ปัญหาการพัฒนากระบวนการผลิตให้ถูกต้องและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้น้อยและใช้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ มีการรวมกลุ่มของอุตสาหกรรมยางแต่มีความเข้มแข็งน้อย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการแปรรูปที่ยังล้าสมัยในกลุ่มของเกษตรกรต้นน้ำ ซึ่งส่งผลอัตราการสูญเสียและต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น คุณภาพน้ำยางสดไม่สม่ำเสมอ ต้นทุนด้านการขนส่งสูงและโดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่มีอยู่มาก
แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบ
เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศอย่างครบวงจร เป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางขั้นปลายให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เพิ่มการใช้ยางเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานยางพาราในตลาด ทำให้ราคายางลดความผันผวนและมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้มาตรการต่างๆดังกล่าว จะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศประมาณ 500,000 ตัน และเพิ่มผลิตภาพของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ถุงมือยาง ยางล้อ ยางยืด อีกด้วย
การพัฒนาอุตสาหกรรมยางของไทยเพื่อให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการแข่งขันในตลาดโลก รวมถึงการมุ่งเน้นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาผลิตภัณฑ์ยาง จึงจำเป็นต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุนการให้มีการใช้ยางและผลิตภัณฑ์ยางภายในประเทศพร้อมทั้งเร่งรัดการผลิตทั้งที่ใช้เองและเพื่อการส่งออกให้มากขึ้น การต่อยอดงานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อการขยายผลการใช้ยางในเชิงพาณิชย์ได้โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาวัตถุดิบและการเพิ่มมูลค่าสินค้า เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาด ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาอุตสาหกรรมยางเกิดขึ้นได้จริงและต่อเนื่อง ทั้งนี้การเพิ่มปริมาณการใช้ยางเพื่อเป็นวัตถุดิบโรงงานผลิตภัณฑ์ยางนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมยางแล้ว การมุ่งเน้นการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางแทนการส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นนั้น ยังเป็นการสร้างรายได้ส่งออกให้กับประเทศ